KIT UDOM RICE

Premium Quality Rice from Ubon Ratchathani, Thailand.

This is default featured slide 2 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 3 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

Premium Grade Hom Mali Rice

วันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ประโยชน์ของข้าวไรซ์เบอร์รี่


ประโยชน์ของข้าวไรซ์เบอร์รี่ 
        ใครๆต่างพูดกันว่า ข้าวไรซ์เบอร์รี่ (RiceBerry หรือ Thai Black Rice) มีประโยชน์มาก เพราะอุดมไปด้วยวิตามิน E เบต้า-แคโรทีน (Beta-carotene) โฟเลต (Folate) และที่สำคัญคือมีสารฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีส่วนช่วยป้องกันโรคมะเร็ง เพราะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ก่อนอื่นเราคงต้องทำความรู้จักกับโรคมะเร็งและอนุมูลอิสระเสียก่อน อนุมูลอิสระหรือ Free radicals เป็นโมเลกุลหรืออะตอม ที่สูญเสียอิเลคตรอนไปทำให้ไม่เสถียร ดังนั้นอนุมูลอิสระจึงต้องไปแย่งจับเอาอิเลคตรอนจากเซลล์หรืออะตอมอื่นๆเพื่อสร้างความเสถียรให้กับตัวเอง 

         ดังนั้นอนุมูลอิสระก็เปรียบเสมือนกับผู้ร้ายในร่างกายของเรา ซึ่งธรรมชาติของผู้ร้ายไม่สามารถดำรงอยู่ด้วยตัวเองได้ ต้องสร้างความเสียหาย ต้องแย่งชิง ต้องขโมย ทำให้พลเมืองดีๆพลอยได้รับความเดือดร้อนไปด้วย แล้วผู้ร้ายเกิดขึ้นในร่างกายของเราได้อย่างไร ?

         ตามปกติแล้วด้วยกระบวนการตามธรรมชาติของร่างกายคนเรา ก็มักจะเกิดของเสียเป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งของเสียต่างๆเหล่านี้ก็กลายเป็นผู้ร้ายทำร้ายตัวเราด้วย หรือบางทีเราอาจจะรับผู้ร้ายจากภายนอกเข้ามาในร่างกายเรา จากมลภาวะ อาหารพวกปิ้งย่าง การสูบบุหรี่ หรือรังสี UV เป็นต้น ซึ่งผู้ร้ายเหล่านี้ก็จะออกปล้นทรัพย์สินมีค่าจากพลเมืองดีของเรา นั่นก็คือการแย่งจับเอาอิเลคตรอนจากเซลล์ต่างๆภายในร่างกายของเรา ทั้งจาก DNA โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และเซลล์เนื้อเยื่ออื่นๆ ซึ่งทำให้เซลล์ต่างๆเหล่านี้เกิดความเสียหาย และกลายเป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด แก่ก่อนวัย และอื่นๆอีกมาก

        แต่ที่ผ่านมา ที่เราไม่เจ็บไม่ป่วยก็เพราะร่างกายของเรายังคงมีตำรวจ ที่คอยตั้งด่านตรวจจับทำลายผู้ร้าย ซึ่งตำรวจเหล่านี้เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Antioxidants หรือสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะคอยจับเอาผู้ร้ายและลำเลียงออกไปทิ้ง เช่นเดียวกับผู้ร้ายร่างกายเราสามารถสร้างตำรวจได้เอง แต่เมื่ออายุมากขึ้น การสร้างตำรวจก็อาจจะน้อยลง ในขณะที่ผู้ร้ายมีจำนวนเท่าเดิมหรืออาจจะมากขึ้นด้วยซ้ำ จนตำรวจมีไม่เพียงพอในการจับผู้ร้าย อนุมูลอิสระก็จะเพิ่มจำนวนขึ้นและสร้างความเสียหายจนก่อให้เกิดโรคกับเราได้

        "การรับประทานข้าวไรซ์เบอร์รี่ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเพิ่มปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระ" หรือเพิ่มจำนวนตำรวจในร่างกายเราได้ เนื่องจากในข้าวไรซ์เบอร์รี่มีสารชนิดหนึ่งเรียกว่าฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ต้านการอักเสบ และลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งนอกจากนั้นยังช่วยลดความเสี่ยงในการแก่ก่อนวัยอีกด้วย

          ไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งเท่านั้น สารฟลาโวนอยด์ในข้าวไรซ์เบอร์รี่ ยังช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะหลอดเลือดแข็งตัว (Atherosclerosis) ซึ่งเกิดจากการที่ผนังหลอดเลือดชั้นในหนาตัวมากขึ้น จนมีไขมันไปเกาะสะสม จนทำให้เส้นเลือดเกิดการตีบตัน ส่งผลให้อวัยวะภายในร่างกายขาดเลือดได้ ซึ่งสารฟลาโวนอยด์จะช่วยเสริมความแข็งแรงและความสมบูรณ์ของหลอดเลือด  ทำให้ลดความเสี่ยงจากโรคหลอดเลือดได้

          แต่ข้าวไรซ์เบอร์รี่ก็ไม่ใช่ยาวิเศษ ครอบจักรวาล ร่างกายคนเรายังต้องการสารอาหารอีกมาก การรับประทานอาหารที่หลากหลายและครบ 5 หมู่ จึงจะดีที่สุด
Further Reading 
1. Suttiarporn, P., Sookwong, P., and Mahatheeranont, S. (2016). Fractionation and Identification of Antioxidant Compounds from Bran of Thai Black Rice cv. Riceberry. Retrieved from http://www.ijcea.org/vol7/552-Q0030.pdf 

2. National Cancer Insitute. Antioxidants and Cancer Prevention. Retrieved from  https://www.cancer.gov/about-cancer/causes-prevention/risk/diet/antioxidants-fact-sheet

    3. George Mateljan. Flavonoids. Retrieved from http://www.whfoods.com/genpage.php?tname=nutrient&dbid=119 


วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ไรซ์เบอร์รี่ตระการพืชผล

ไรซ์เบอร์รี่ตระการพืชผล 
        "ข้าวตระการ มีดีอย่างไร" ผมได้ยินเจ้าหน้าที่จากกรมการข้าว สัมภาษณ์ชาวบ้านเมื่อครั้งที่ท่านรองอธิบดี ท่านดร.กฤษณพงศ์ ศรีพงศ์พันธุ์กุล ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมแปลงนาที่อำเภอตระการพืชผล คำถามง่ายๆแต่ลุ่มลึกยิ่ง ยากจะหาคำตอบยิ่ง 
  
          จนกระทั่งเช้าวันหนึ่ง พ่อขาวมาขายข้าวที่โรงสีกิจอุดม ด้วยความเป็นผู้นำชุมชน ด้วยความที่ขายข้าวคุณภาพ และด้วยความเป็นลูกค้าประจำ ผมจึงลองถามพ่อขาว "ข้าวตระการ มีดีอย่างไร" พ่อขาวหัวเราะร่วน ก่อนจะตอบอย่างเชื่อมั่นว่า "ข้าวมันจะดีได้ มันต้องมี ดิน น้ำ ลม ไฟ" ผมยังคงยืนฟัง พ่อขาวจึงเล่าต่ออย่างออกรสออกชาติ


           "ดิน"ตระการของเรา มันเป็นดินร่วนปนทราย เหมาะกับการเติบโตของข้าวอยู่แล้ว 

           "น้ำ" นี่สำคัญเลย ถ้าฝนทิ้งช่วงก็ทำให้ข้าวตาย ถ้าฝนมากไปข้าวก็ไม่ออกรวง น้ำจึงต้องถูกจริตกับข้าวด้วย 

           "ลม"ช่วงฤดูเก็บเกี่ยว ต้องมีลมเมล็ดข้าวถึงจะแข็ง ไม่แตกหักง่าย 

           "ไฟ"หรือก็คืออุณหภูมิ ตอนข้าวกำลังตั้งท้อง ต้องอาศัยแดด ต้องอาศัยความร้อน แต่ตอนเก็บเกี่ยวอากาศต้องเย็น ถ้าอากาศร้อน ข้าวก็แตกหักเสียหายได้ 

           ผมยังคงยืนฟัง และพยักหน้าตาม ฟังที่พ่อขาวเล่า "แต่ที่สำคัญที่สุด....ก็คือ "คน" นี่แหละที่ต้องเอาใจใส่ข้าว"  พ่อขาวพูดจาหนักแน่นเพราะกลัวผมจะไม่เชื่อ 
           "อย่างผมเนี่ย ข้าวต้องเหลืองกล้วยพอดีเกี่ยว ผมจึงจะเกี่ยว ข้าวแกมข้าวกลายพันธุ์ผมถอนทิ้งหมด ไม่มีเหลือ ดอกหญ้าฟางข้าวของผมนี่ไม่มี ผมกวาดออกหมด ทำอย่างดีเลยแหละ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ของผมก็เหมือนกัน สารเคมีผมไม่ให้เข้ามาใกล้เลย"
           ผมสะดุดใจกับข้าวไรซ์เบอร์รี่ ผมไม่รู้มาก่อนว่าพ่อขาวปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ด้วย เพราะที่ผ่านมาพ่อขาวขายเฉพาะข้าวหอมมะลิให้กับผมเท่านั้น น่าสนใจยิ่งเพราะเป็นไรซ์เบอร์รี่ น่าสนใจยิ่งเพราะเป็นพ่อขาว

      ความร่วมมือจึงเกิดขึ้น หรือจะเรียกว่าเราพัฒนาแบรนด์สินค้า พัฒนาตลาดร่วมกัน ก็ไม่ผิดนัก จึงกลายเป็น "แบรนด์ข้าวบ้านเรา" โดย K.D. Rice จึงกลายเป็น "ความร่วมมือ" โดยชาวนาคุณภาพที่ชื่อพ่อขาวคนนี้



            


     


วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2561

ธรรมะในข้าวหอมมะลิ

ธรรมะในข้าวหอมมะลิ
         "มาแล้ว เป็นจั่งใด๋ลูกชาย" เสียงแม่แขกทักทายผม ตั้งแต่ยังไม่ก้าวเท้าเข้ามาในออฟฟิศ แม่แขกเป็นชาวนาลูกค้าประจำของโรงสีกิจอุดมมานาน ด้วยอัธยาศัยที่ดีจึงทำให้เราสองคนคุยกันถูกคอ เรียกกันเป็นแม่เป็นลูก ผมดีใจทุกครั้งที่แม่แขกมาหา เพราะแม่แขกมักจะพกพาสิ่งดีๆมาฝากผมทุกครั้งที่มา

          อย่างปลายปีที่แล้วก็เช่นกัน แม่แขกเอาข้าวเปลือกหอมมะลิมาขายที่โรงสี ข้าวของแม่แขกเมล็ดสวย ไม่มีดอกหญ้าสิ่งเจือปน สีข้าวเปลือกเป็นสีฟาง สีเหลืองใส เพราะแม่แขกเกี่ยวข้าวด้วยมือ ความชื้นอยู่ในเกณฑ์พอดี ไม่ชื้นไป ไม่แห้งไป จึงทำให้ข้าวหอมมะลิของแม่แขกมีเปอร์เซ็นต์กรัมข้าวสูง เมล็ดแตกหักมีน้อย จึงไม่น่าแปลกใจนักว่า ทำไมผู้นำเข้าข้าวชาวจีนและชาวฮ่องกง จึงเลือกมาเยือนจังหวัดอุบลเป็นที่แรก

          สิ่งดีๆที่แม่แขกนำมาให้ผมในวันนั้นไม่ใช่ข้าวหอมมะลิเกรดคุณภาพเท่านั้น แต่ยังมีข้าวเหนียวนึ่งร้อนๆ 1 กระติบ ปิ้งปลาตัวโต ปูนาดอง และยังมีมะขามเชื่อมเป็นของหวานอีก ของฝากพื้นๆจากบ้านป่า ที่แม่แขกนำมามอบให้ แม้ไม่ใช่ของราคาแพง แต่ก็มาจากใจจริง ที่ไม่อาจประเมินค่าได้

           แต่วันนี้แม่แขกมาขายข้าวเหนียว  แม้ไม่มีข้าวเหนียวนึ่งกับปิ้งปลา แม้ไม่มีข้าวหอมมะลิเหมือนทุกครา แต่ก็ยังมีสิ่งดีๆมาฝากผมเหมือนทุกที คือการได้สนทนาธรรมและข้อคิดดีๆที่แม่แขกฝากไว้ให้ผม แม่แขกเล่าว่า ให้ผมเข้าวัดทุกวัน ซึ่งการเข้าวัดในที่นี้ไม่ใช่การไปโบสถ์ไปวิหาร แต่คือการรักษาใจให้เป็นธรรมะ ธรรมะคืออะไร ธรรมะคือธรรมชาติ หมั่นพิจารณาตนเอง รักษาจิตใจให้เป็นธรรมชาติ ไม่โอนเอนไปกับสภาวะอารมณ์ เท่านี้ก็คือการเข้าวัดแล้ว แม้ไม่เข้าวัดก็เหมือนเข้าวัด แต่หากไม่เป็นดังนี้แม้เข้าวัดก็เหมือนไม่ได้เข้า
               วาจามีค่าดั่งทอง คำของแม่แขกไม่ได้เป็นคติธรรมสอนใจผมเท่านั้น แต่ยังทำให้ผมเข้าใจประการหนึ่ง ชาวนาอุบลศรัทธาในศาสนา ทำให้พวกเขาเอาใจใส่ในการเพาะปลูกข้าว ตั้งแต่การเตรียมดิน การดำนา การถอนวัชพืชและข้าวกลายพันธุ์ จนถึงการเก็บเกี่ยวด้วยมือ นวดข้าวด้วยมือ เก็บเศษฟางและดอกหญ้า และสิ่งเจือปนออกจนหมด จึงทำให้ข้าวหอมมะลิอุบลเป็นข้าวหอมมะลิที่มีคุณภาพและมีความบริสุทธิ์มากกว่าที่อื่น การที่ชาวนาใส่ใจในรายละเอียดก็เป็นเพราะ เขาถือว่าข้าวที่ปลูกในนา ก็คือข้าวที่พวกเขาต้องไปใส่บาตร ข้าวที่พวกเขาต้องไปถวายให้พระฉัน เพราะฉะนั้นเขาต้องรักษาคุณภาพข้าวเป็นอย่างดี จะทำมักง่ายไม่ได้ ไม่เช่นนั้นพระจะฉันข้าวไม่ดี เป็นบาปติดตัวไปเสียเปล่า

                แม่แขกกลับบ้านไปแล้ว แต่วาจาสอนใจของแม่แขกยังคงอยู่ และจะยังคงอยู่ไปอีกนาน

วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2561

Choosing the right rice


Choosing the right rice.
Rice is the staple food for Asians. Currently, many ethnic groups tend to eat rice. However, how much do we know about rice? As an entrepreneur invited by the Ministry of Commerce of Thailand to involve in Thaiflex, the largest international trade exhibition of food and agricultural industry in Thailand, one question that many visitors usually ask is what the difference between Hom Mali and Jasmine rice is. Actually, Hom Mali rice is the original Thai name of Jasmine rice. Nevertheless, after execution of the new Thailand agricultural standard, Jasmine rice without mixing with other rice varieties is addressed as Hom Mali rice, which confuses customers. Thus, the objective of this article is to explain difference between Hom Mali and Jasmine rice. 
To begin with, according to Georges Giraud, food marketing professor from France, fragrant rice is classified as a premium product in the rice market because it has well-shaped appearance, subtle aroma, and desirable taste and texture. Fragrant rice consists of diverse varieties, namely Basmati, Phka Rumduol, and Jasmine rice. In particular, the well-known Jasmine rice comprises only two varieties which are Khao Dawk Mali 105 and RD 15. The two varieties originate from Thailand as geographical conditions in terms of climates, soil physiochemical properties, sunlight, and temperatures are dramatically appropriate for their growth.  Definitely, when life gives you lemons, make lemonade. Owing to such a condition, Thai Jasmine rice is softer and more aromatic than fragrant rice from other regions. Thus, its eating quality is acceptable for the global market. This is the reason that Thai Jasmine rice is expensive.
However, there are other fragrant rice varieties in Thailand, namely Pathum Thani 1, Hom Khlong Luang 1, Hom SuphanBuri, Hom Pitsanuloke 1, and RD33 as well, which are cheaper than Jasmine rice. According to Georges Giraud, because physical attributes of Jasmine rice and the others are not explicitly different, some traders mix Jasmine rice with other cheap fragrant rice and launch it in the market as Jasmine rice in order to penetrate the mass market. Accordingly, there are pure Jasmine rice and mixed Jasmine rice in the market. Doing so undermines reliability of Thai Jasmine rice and confuses customers. Consequentially, the Ministry of Commerce of Thailand promulgated the new Thai Agricultural Standard in 2017 to create two brands for fragrant rice, which are Hom Mali Rice and Jasmine Rice. Meanwhile, Hom Mali rice means pure Jasmine rice for the high end market, and Jasmine rice means mixed Jasmine rice with other fragrant rice for the mass market.

To illustrate, there are two varieties declared as Hom Mali rice that is only Khao Dawk Mali 105 and RD 15 variety. If manufacturers or traders sell the product resulting from the two varieties, they are claim their products as Hom Mali riceon their package. Regard to purity, either brown rice or white rice claimed as Hom Mali rice has to contain such a variety at least 92% by weight. The traders can verify purity from a certification from a related governmental department before exporting.
On the other hand, a rice combination containing Khao Dawk Mali 105 and RD 15 less than 92% by weight is unable to claim as Hom Mali rice. Because some traders want to penetrate the mass market, the two varieties may be unaffordable for their customers. Thus, they has to mix cheaper fragrant rice for their customers. As a result, mixing other fragrant rice varieties which may be or may be not Khao Dawk Mali 105 and RD 15 is declared as Jasmine rice. As far as the Thai agricultural standard is concerned, Jasmine rice stems from combination of the same fragrant rice varieties at least 80% by weight. In other words, mixing any fragrant rice varieties calls Jasmine rice.  To wrap up, Hom Mali brand is premium Jasmine rice, but Jasmine rice is mixed fragrant rice.  Thus, Hom Mali rice and Jasmine rice are not the same product.
Currently, Hom Mali rice becomes the premium product among fragrant rice
Not only does Hom Mali rice has natural fragrance and flora taste, but also it contains carbohydrates and protein without gluten which causes intestinal damage to restrain small intestine from absorbing nutrients. According to Shimma Badawy and S. Mahgoub, agricultural professors from Egypt, Hom Mali rice contains abundant iron that is beneficial for tissues and immune system as well. This is the reason that Thai Hom Mali rice was voted by the World Rice Conference as the worlds best rice in 2017.
K.D. Rice Intertrade Company exports authentic Hom Mali rice from Ubon rice fields to our customers. Our manufactures, Kitudom Rice Mill, deliberately produces Hom Mali rice with advanced technological machine to ensure customers the premium product. With sophisticated production process, we acquired standards, which are Good Manufacturing Practice (GMP), Hazard Analysis Critical Control Point (HACCP), and ISO 9001:2015. Thus, our production process comforms to food safety management systems. We are truly confident that our products meet customers’ satisfaction. The proof of the pudding is in the eating.


วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2561

หอมมะลิอุบล เสน่ห์แห่งท้องทุ่ง



 หอมมะลิอุบล เสน่ห์แห่งท้องทุ่ง

              ท้องทุ่งที่ห่างไกลนอกเมืองอุบลราชธานี ทุ่งนาสีเขียวขจีตัดกับสีของท้องฟ้าได้อย่างลงตัว สายลมโบกพัดเอากลิ่นหอมของไอดินและดอกหญ้า ความร่มรื่นและเรียบง่าย ที่หาได้ยากยิ่งสำหรับชีวิตคนในเมือง  วิถีชุมชนที่ผูกพันธ์กับธรรมชาติ ป่าดงพงไพร และข้าวหอมมะลิที่ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ แม้อยู่ในนาข้าว
          ผมเห็นชาวนาคนนึงกำลังเดินไปยังท้องทุ่ง เพื่อถอนวัชพืชในนาข้าว วิถีการทำนาแบบดั้งเดิมยังคงมีให้เห็น ไม่ได้ถูกดูดกลืนไปตามยุคสมัยเสียทั้งหมด ข้าวหอมมะลิที่นี่กำลังตั้งท้อง แต่ข้าว กข 15 เริ่มออกรวงให้เห็นบ้างแล้ว คนไทยผูกพันธ์กับข้าวมานาน ทั้งเป็นอาหารหลัก วิถีชีวิต และวัฒนธรรมก็ล้วนผูกพันธ์อยู่กับข้าวทั้งสิ้น แต่เรารู้จักข้าว โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิกันดีแค่ไหน

                นับตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2559 กระทรวงพาณิชย์ออกมาตรฐานข้าวไทยใหม่ ส่งผลให้ข้าวที่ใช้ชื่อว่า THAI HOM MALI RICE และ THAI JASMINE RICE เป็นข้าวคนละชนิดกัน เพราะการแข่งขันสูงในตลาดโลก จึงต้องมีข้าวที่เหมาะทั้งผู้บริโภคในตลาดบนและตลาดล่าง ในขณะที่ THAI HOM MALI RICE คือ Brand ของข้าวถูกวางตัวไว้เพื่อเจาะผู้บริโภคในตลาดบน ซึ่งข้าวที่จะใช้ชื่อว่า THAI HOM MALI RICE นั้นต้องประกอบด้วยสายพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 และพันธุ์ กข 15 ไม่ต่ำกว่า 92% โดยน้ำหนัก หรือพูดง่ายๆก็คือ THAI HOM MALI RICE เป็นข้าวเกรด   พรีเมียมนั่นเอง
           ในขณะที่ THAI JASMINE RICE คือ Brand ที่ถูกวางไว้เพื่อเจาะตลาดระดับกลาง ซึ่งข้าวที่จะใช้ Brand นี้ได้นั้นต้องประกอบด้วยข้าวในกลุ่มข้าวเจ้านุ่มในสายพันธุ์เดียวกัน ไม่น้อยกว่า 80% โดยน้ำหนัก 

               ดังนั้น ภายใต้ Brand THAI HOM MALI RICE จึงต้องแข่งขันในด้านคุณภาพ ด้วยวิธีการเพาะปลูกข้าวหอมมะลิของชาวนา และสภาพภูมิศาสตร์ของจังหวัดอุบลราชธานี จึงมั่นใจได้ว่าข้าวหอมมะลิจังหวัดอุบลราชธานีมีคุณภาพและสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้
                
 ตะวันครรไลยามบ่าย คืบคลานปกคลุมนาข้าว สีแสงทองเหลืองอร่าม กลิ่นหอมโชยมาอีกครา