หูเย่าปังกับวิกฤติเทียนอันเหมิน
หูเย่าปัง เป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ของจีนระหว่างปี 1980-1987 แต่ดูเหมือนว่าตลอดการดำรงตำแหน่งในฐานะเลขาธิการพรรคของหูเย่าปังนั้นจะไม่ราบรื่นนัก โดยเฉพาะความขัดแย้งกับเติ้งเสี่ยวผิง ที่นับวันจะขัดแย้งรุนแรงมากขึ้น ซึ่งความขัดแย้งดังกล่าวมาจากประเด็นเรื่องหลักการเสรีนิยม เติ้งเสี่ยวผิงยึดมั่นในหลักการ 4 ประการ (The Four Cardinal Principles) ประกอบด้วย
- เดินตามแนวทางสังคมนิยม (the socialist path)
- เผด็จการโดยประชาชน (the people's democratic dictatorship)
- มีพรรคคอมมิวนิสต์เป็นผู้นำ (the leadership of the Communist Party)
- เดินตามแนวคิดมาร์กซ์ เลนิน และเหมาเจ๋อตุง (Marxist-Leninist-Mao Ze-dong thought)
ในขณะที่หูเย่าปังมีความกังวลว่านโยบายดังกล่าวจะสร้างความไม่พอใจในหมู่ปัญญาชนและต่างประเทศ และกล่าวกับตัวแทนจากญี่ปุ่นว่านโยบายดังกล่าวไม่ความเหมาะสม นอกจากนั้นหูเย่าปังยังไม่ดำเนินมาตรการอย่างเด็ดขาดกับหวังรั่วสุย (Wang Ruoshui) กัวหลัวจี้ (Guo Luoji) นักวิชาการเสรีนิยม และ หูจี๋เว่ย (Hu Jiwei) บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ People's Daily ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับเติ้งเสี่ยวผิงเป็นอันมาก เพราะเติ้งเสี่ยวผิงมองว่า กระแสเสรีนิยมเริ่มรุนแรงขึ้นในจีนเพราะความอ่อนแอของหูเย่าปัง ความไม่พอใจของเติ้งเสี่ยงผิงเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อหูเย่าปังให้สัมภาษณ์กับลู่เคิง บรรณาธิการนิตยสารไป๋ซิ่ง (Ordinary People) ซึ่งเป็นนักหนังสือพิมพ์ที่อยู่ฝ่ายตรงกันข้ามกับพรรคคอมมิวนิสต์ หนึ่งในบทสัมภาษณ์ลู่เคิงถามหูเย่าปังว่า ทำไมไม่คุมอำนาจกองทัพแทนเติ้งเสี่ยวผิง หูเย่าปังตอบปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่าเพียงแค่งานด้านเศรษฐกิจก็ยุ่งมากพอแล้ว นอกจากนั้นบางช่วงบางตอนลู่เคิงเองก็วิพากษ์วิจารณ์ผู้ใหญ่ในพรรคคอมมิวนิสต์หลายคน เช่น เฉินหยุน และ หวังเจิ้น แต่การสัมภาษณ์ในครั้งนั้นกับสร้างความหวาดระแวงของเติ้งเสี่ยวผิงที่มีในตัวหูเย่าปังเพิ่มมากขึ้น
และฟางเส้นสุดท้ายก็คือเหตุการณ์ประท้วงของนักศึกษาในเดือนตุลาคม 1986 ซึ่งเติ้งเสี่ยวผิงมองว่าเป็นความผิดของหูเย่าปังที่ไม่ขจัดขัดขว้างขบวนการเสรีนิยมตั้งแต่ต้น หูเย่าปังยื่นใบลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ในวันที่ 4 มกราคม 1987 จากนั้นจึงมีการตั้งกรรมการสอบความผิดของหูเย่าปัง โดยหนึ่งในผู้กล่าวโทษหูเย่าปังก็คือ หยูชิวหลี่ หนึ่งในผู้ใกล้ชิดหูเย่าปัง ซึ่งสร้างความประหลาดใจเป็นอย่างยิ่งว่า เหตุใดคนที่ทำงานใกล้ชิดหูเย่าปัง กลับกล่าวโทษหูเย่าปังอย่างรุนแรง เป็นที่คาดการณ์กันว่า หยูชิวหลี่ คงอยากสลัดภาพผู้ใกล้ชิดออกไป ไม่อยากรับเคราะห์ตามหูเย่าปังไปด้วย
วันที่ 15 เมษายน 1989 หูเย่าปังถึงแก่อนิจกรรม นักศึกษานับพันร่วมชุมนุมที่จัตุรัสเทียนอันเหมินเพื่อเป็นการไว้อาลัยแด่การจากไปของหูเย่าปัง แต่การชุมนุมยืดเยื้อบานปลายจนกลายเป็นการเรียกร้องให้มีการปฏิรูปทางการเมือง แก้ปัญหาการทุจริต เรียกร้องประชาธิปไตย และมีบางส่วนที่หัวรุนแรงต่อต้านพรรคคอมมิวนิสต์ เจ้าจื่อหยางขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ดำเนินการให้มีการประนีประนอมจากหลายฝ่าย แต่ท้ายที่สุดเหตุการณ์การนองเลือดก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ กลายเป็นจุดด่างพร้อยในประวัติศาสตร์จีน
สนับสนุนบทความโดยข้าวหอมมะลิตรามงกุฎคู่
Reference
Pu, B., Chiang, R., and Ignatius, A. (2009). Prisoner of the State the Secret Journal of Premier Zhao Ziyang. Simon & Schuster;New York