KIT UDOM RICE

Premium Quality Rice from Ubon Ratchathani, Thailand.

This is default featured slide 2 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 3 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

Premium Grade Hom Mali Rice

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ มาตรฐาน แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ มาตรฐาน แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2564

อบรมมาตรฐานใหม่ จาก GMP สู่ GHPs

 อบรมมาตรฐานใหม่ จาก GMP สู่ GHPs 

       องค์การอนามัยโลก หรือ WHO มีการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานสากลจากระบบ GMP เป็น GHPs (Good Hygiene Practices) ซึ่งประกอบด้วย 5 หัวข้อคือ 

  1. การดูแลทำความสะอาด
  2. การแยกอาหารดิบออกจากอาหารปรุงสุก
  3. การปรุงอาหารให้สุกอย่างทั่วถึง 
  4. จัดเก็บอาหารภายใต้อุณหภูมิที่เพียงพอและเหมาะสม
  5. ใช้น้ำที่สะอาดและปลอดภัย 

        เพื่อให้พนักงานได้เข้าใจระบบมาตรฐานใหม่และนำไปใช้อย่างถูกต้อง โรงสีข้าวกิจอุดมจึงเชิญอาจารย์สมใจ เจริญวัฒนธาดา เข้ามาอบรมเพื่อให้ความรู้ ความมุ่งมั่นของผู้บริหารและพนักงานเป็นสิ่งที่โรงสีข้าวกิจอุดมยึดมั่นเสมอมา เพราะระบบมาตรฐานไม่ใช่แค่งานเอกสารเพื่อให้ auditor ตรวจเท่านั้น แต่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอและเป็นกิจวัตร ดังนั้นการประยุกต์ใช้ระบบมาตรฐานในการทำงาน พนักงานจึงต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกำหนดเสียก่อน เราจึงจัดอบรมให้กับพนักงานอย่างสม่ำเสมอ

       

        ระบบใหม่ GHPs ไม่เพียงแต่เน้นเรื่องการผลิตเหมือนที่ผ่านมาเท่านั้น แต่เพราะ GHPs ให้ความสำคัญกับสารก่อภูมิแพ้ ดังนั้นโรงสีจึงต้องใส่ใจทุกกระบวนการ ตั้งแต่รับเข้าข้าวเปลือก การจัดเก็บ การผลิต การขนส่ง รวมทั้งสุขลักษณะส่วนบุคคล เพื่อป้องกันสารก่อภูมิแพ้ปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ รวมทั้งระบบมาตรฐาน GHPs ยังก้าวล่วงเข้าไปในปริมณฑลของ มาตรฐาน HACCP อีกด้วย โดยเพิ่มความคุมเข้มจุดวิกฤติที่ก่อให้เกิดอันตรายในกระบวนการผลิต แต่เนื่องจากโรงสีข้าวกิจอุดม มีมาตรฐาน HACCP อยู่แล้ว ระบบมาตรฐานใหม่ GHPs จึงไม่เป็นภาระมากนัก

         อาจารย์สมใจ ยังให้ความสำคัญกับการระบุอันตรายจากกระบวนการผลิตด้วย ซึ่งมาจาก คน วัตถุดิบ และสิ่งแวดล้อม การระบุอันตรายต้องระดมสมองจากพนักงานทุกคน และมีหลักฐานหรือมาตรฐานเป็นเอกสารอ้างอิง และมีการตรวจสอบจุดอันตรายต่างๆเหล่านั้นอย่างสม่ำเสมอ จากการอบรมพนักงานโรงสีข้าวกิจอุดม ผ่านการทดสอบทุกคน ผู้บริโภคจึงเชื่อมั่นได้ว่า สินค้าของโรงสีข้าวกิจอุดมนั้นมีความปลอดภัย


 

วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

แนวทางการพัฒนาชนบทแบบ Rurbanomics

แนวทางการพัฒนาชนบทแบบ Rurbanomics
      
           Rurbanomics คือการเชื่อมโยงสังคมชนบทกับสังคมเมืองด้วยเศรษฐกิจ ซึ่งเกิดจากคำว่า Rural (ชนบท) Urban (ในเมือง) และ Economics (เศรษฐศาสตร์) ในยุคปัจจุบันพบว่าประชากรในสังคมเมืองมีความต้องการบริโภคอาหารปลอดภัยมากขึ้น ห่วงโซ่อุปทานอาหารมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น หรือที่ Rob Vos และ Andrea Cattaneo เรียกว่า Quiet Revolution หรือการปฏิวัติเงียบ จึงเป็นโอกาสสำหรับสังคมชนบทที่อยู่บนพื้นฐานของเกษตรกรรมได้รับประโยชน์จากสังคมเมืองมากขึ้น แต่สังคมชนบทยังต้องพัฒนาสินค้าให้ได้มาตรฐาน มีเครื่องจักรสมัยใหม่เข้ามาช่วย จึงจะสามารถเข้าถึงตลาดได้ เพื่อไม่ให้ประชากรในชนบทถูกทิ้งไว้ข้างหลัง Rob Vos และ Andrea Cattaneo จึงเสนอแนวทางในการพัฒนาชนบท ตามแนว Rurbanomics 4 แนวทาง คือ การแก้ปัญหาที่ดินทำกิน การส่งเสริมธุรกิจการเกษตร การพัฒนาเทคโนโลยี และ เสริมศักยภาพของชาวนาและการจัดการความเสี่ยง



           1. การแก้ปัญหาที่ดินทำกิน จากข้อมูล IFPRI ระบุว่า 84% ของเกษตรกรรายย่อย ถือครองที่ดินน้อยกว่า 12 ไร่ และหลายประเทศในแอฟริกาและเอเชียใต้ ขนาดการถือครองที่ดินยังมีแนวโน้มลดลงด้วย จึงเป็นกับดักรายได้และเป็นอุปสรรคต่อการเพิ่มผลผลิตและการพัฒนา Rob Vos และ Andrea Cattaneo เสนอให้ขยายการถือครองที่ดินของเกษตรกรรายย่อย เพื่อที่เกษตรกรจะได้ประโยชน์จากขนาด หรือ Economies of Scale ซึ่งการแก้ปัญหาที่ดินทำกิน อาจจะให้สิทธิในการถือครอง หรือการให้เช่าก็ได้ เช่น ในบังกลาเทศ 40%ของการถือครองเกิดจากการเช่าที่ดินทำกิน หรือการใช้ที่ดินภายใต้การบริหารจัดการ นอกจากนั้นภาครัฐยังต้องสนับสนุนด้านเครื่องจักรที่ทันสมัยแก่เกษตรกร ซึ่งอาจจะให้เกษตรกรเช่า หรือการใช้ร่วมกัน เช่น ในเอเชียตะวันออกส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มกันและใช้ปัจจัยการผลิตร่วมกัน

        
          2. ส่งเสริมธุรกิจการเกษตร ตามแนวคิดของ Rob Vos และ Andrea Cattaneo คือให้ภาคธุรกิจร่วมกับภาคเกษตรกรรมทำพันธะสัญญาร่วมกันเป็นการตลาดแบบองค์รวม (Collective Marketing) เนื่องจากการทำเกษตรของเกษตรกรรายย่อย ประสบปัญหาหลายอย่าง ขาดแคลนเงินทุน ปัจจัยการผลิต และผลิตสินค้าไม่ได้คุณภาพตรงตามความต้องการของตลาด จึงทำให้ขายสินค้าในราคาต่ำ ดังนั้นเกษตรกรรายย่อยจึงต้องรวมกลุ่มกันในการผลิต และขายให้กับธุรกิจที่ทำพันธะสัญญาด้วย ในขณะที่ภาคธุรกิจสนับสนุนปัจจัยการผลิต เช่น เงินทุน โดยใช้ผลผลิตเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ลงทุนคลังสินค้า และเครื่องจักรให้กับเกษตรกร ในขณะที่เกษตรกรต้องผลิตสินค้าให้ได้ตามมาตรฐานที่ตลาดต้องการ
              
          การทำการตลาดแบบองค์รวมนั้นเกษตรกรต้องรวมกลุ่มกัน เพื่อผลิตสินค้าชนิดเดียวกัน และต้องให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ผู้ซื้อต้องการ ซึ่งหากทำได้จริงการรวมกลุ่มกันและสินค้ามีคุณภาพ จะทำให้เกษตรกรมีอำนาจต่อรองเพิ่มขึ้น ก็จะสามารถขายสินค้าในราคาที่สูงขึ้นได้ รวมทั้งอาจจะสามารถลดต้นทุนการผลิตได้ด้วย เพราะสามารถใช้ปัจจัยการผลิต เช่น รถแทรกเตอร์ หรือยานพาหนะ ร่วมกันได้



        แม้ว่าการตลาดองค์รวมจะเป็นทางออกสำหรับเกษตรกรรายย่อยก็จริง แต่การปฏิบัติยังประสบปัญหาอีกมากเช่น ขาดความโปร่งใส ตัวแทนกลุ่มอาจจะเจรจาราคาต่ำกว่าที่ควรจะเป็น หรือกลุ่มเกษตรกรที่ขาดผู้นำที่จะสามารถโน้มน้าวสมาชิกให้มีความเข้มแข็ง หรือขาดความเป็นเอกภาพภายในกลุ่ม เช่น เกษตรกรบางรายอาจคิดว่าสินค้าของตนเองดีกว่าของสมาชิกอื่น ควรที่จะได้รับราคาสูงกว่าสมาชิกคนอื่นเป็นต้น ดังนั้นเกษตรกรควรได้รับการศึกษาและการอบรมเพื่อสร้างความเข้าใจในการทำงาน และเข้าใจกลไกตลาด จึงทำให้การตลาดแบบองค์รวมประสบความสำเร็จ


References

Robbins, P., Bikande, F., Ferris, S., Kleih, U., Okoboi, G. and Wandschneider, T. (2004) Manual for Collective Marketing for Smallholder farmers. Retrieved from http://www.fao.org/sd/erp/toolkit/BOOKS/manual4_collectivemarketing.pdf July, 25 2020

Sarkar, Sayantan & Mishra, Dheeraj & Ghadei, Kalyan. (2014). Collective Marketing – A Hope for the Farmers. Indian Journal of Crop Ecology. 2. 21-26

Vos, R. and Cattaneo, A. (2020). Smallholders and Rural People Making Food System Value Chains Inclusive. Retrieved from http://ebrary.ifpri.org/utils/getfile/collection/p15738coll2/id/133646/filename/133857.pdf July, 3 2020

วันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2562

ข้าวคุณภาพ ข้าวมาตรฐานสากล


ข้าวคุณภาพ ข้าวมาตรฐานสากล 
    เมื่อเร็วๆ นี้โรงสีข้าวกิจอุดม ได้รับการสนับสนุนจาก สสว. ภายใต้"โครงการเพิ่มประสิทธิภาพ SME ในเครือข่ายธุรกิจอาหารด้วยระบบมาตรฐานสากล ประจำปี 2562"เพื่อให้ทีมระบบมาตรฐานคุณภาพของโรงสีข้าวกิจอุดมเข้ารับการอบรมจากวิทยากร ในหัวข้อมาตรฐานอาหารปลอดภัย ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีสำหรับพนักงานใหม่ที่ยังไม่เคยผ่านการอบรมมาก่อน จะได้รับความรู้ความเข้าใจเพิ่มขึ้น และตระหนักถึงมาตรฐานสากลและความปลอดภัยในอาหารเพื่อนำไปปรับใช้ในการทำงาน




      ทั้งนี้โรงสีข้าวกิจอุดมนั้นได้ตระหนักถึงความสำคัญมาตรฐานอาหารปลอดภัยและมาตรฐานสากลมาโดยตลอด เพื่อส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพมีความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค โดยการนำหลักการและข้อกำหนดของมาตรฐานสากลระบบ GMP HACCP และ ISO9001:2015 นำมาใช้ในกระบวนการผลิต และผู้บริหารยังมีความมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อรักษามาตรฐานคุณภาพอยู่เสมอ โดยการจัดหาอุปกรณ์เครื่องมือเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงาน การปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของมาตรฐานสากล สร้างวัฒนธรรมองค์กรด้านความปลอดภัยของอาหาร โดยส่งเสริมการมีส่วนร่วมของพนักงานและจัดให้มีการอบรมเพื่อพัฒนาบุคลากรอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้พนักงานได้ตระหนักรับรู้ และนำไปใช้ในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

     

 โรงสีข้าวกิจอุดมจึงมีนโยบายคุณภาพตามมาตรฐานสากลดังนี้


1. ด้านบุคลากร ซึ่งถือว่ามีความสำคัญที่สุด โรงสีกิจอุดมจึงจัดให้พนักงานเข้ารับการอบรมจากวิทยากรผู้มีความเชี่ยวชาญอย่างสม่ำเสมอ และส่งเสริมให้พนักงานมีส่วนร่วมในการทำงาน เพื่อให้พนักงานรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร และนำข้อกำหนดมาตรฐานสากลมาใช้ในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ จนทำให้มาตรฐานอาหารปลอดภัยเป็นวัฒนธรรมขององค์กร
2. ด้านการผลิต หัวหน้าทุกแผนกในด้านการผลิตผ่านการอบรมมาตรฐานสากล GMP HACCP และ ISO9001 และยังผ่านการรับรองเป็นผู้ประเมินภายใน จึงมีความเข้าใจในระบบเอกสาร การจดบันทึก และการควบคุมการผลิตเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ซึ่งในแต่ละกระบวนการผลิตนั้นจะมีการตรวจสอบและประเมินผลผ่านตัวชี้วัดต่างๆ เพื่อควบคุมกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคได้ว่าข้าวหอมมะลิจากโรงสีกิจอุดมนั้นมีความปลอดภัยในทุกขั้นตอน




3. ด้านการตลาด ความปลอดภัยของอาหารเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคตระหนักมากที่สุด โรงสีกิจอุดมจึงใส่ใจทุกกระบวนการตั้งแต่การรับซื้อข้าวเปลือก ที่ต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐานสากล ปราศจากวัชพืชหรือศัตรูพืชกักกันที่จะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค รวมทั้งยังมีแบบสอบถามความพึงพอใจผู้บริโภค เพื่อนำข้อเสนอแนะจากผู้บริโภคมาแก้ไขและป้องกันข้อผิดพลาดไม่ให้เกิดซ้ำ

4. ด้านการจัดการ เพื่อให้ทำงานเป็นไปตามมาตรฐานสากล ทีมงานระบบมาตรฐานคุณภาพจึงมีระบบการตรวจประเมินภายในเพื่อประเมินการทำงาน  แก้ไขข้อผิดพลาด และป้องกันข้อผิดพลาดไม่ให้เกิดซ้ำ นอกจากนั้นยังมีการประเมินผู้ขายวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าวัตถุดิบหรือบรรจุภัณฑ์ดังกล่าวมีความปลอดภัยและสะอาด ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค รวมทั้งยังมีระบบการตรวจสอบความสะอาดและความปลอดภัยของรถบรรทุก เพื่อสร้างความมั่นใจต่อผู้บริโภคว่าสินค้าได้รับการใส่ใจทุกกระบวนการผลิต


   ดังนั้นผู้บริโภคสามารถไว้วางใจได้ว่า ข้าวหอมมะลิของโรงสีข้าวกิจอุดม เป็นข้าวคุณภาพ ข้าวมาตรฐานสากล รับประกันด้วยรางวัลชนะเลิศ ประเภทข้าวหอมมะลิ ในการประกวดข้าวตราคุณภาพดีเด่นแห่งประเทศไทย ประจำปี 2559 และรางวัลชนะเลิศ ประเภทข้าวหอมมะลิ ในการประกวดข้าวตราคุณภาพดีเด่น ประจำปี 2563 ระดับจังหวัดอุบลราชธานี