KIT UDOM RICE

Premium Quality Rice from Ubon Ratchathani, Thailand.

This is default featured slide 2 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 3 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

Premium Grade Hom Mali Rice

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข้าวบ้านเรา แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข้าวบ้านเรา แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2564

สถานการณ์ข้าวในพม่า


 สถานการณ์ข้าวในพม่า

            อุตสาหกรรมโรงสีข้าวเป็นผู้เล่นที่สำคัญในห่วงโซ่อุปทานข้าวในพม่า เนื่องจากเป็นทั้งผู้ซื้อข้าวเปลือกจากชาวนา และเป็นผู้แปรรูป ซึ่งปริมาณข้าวในพม่ากว่า 50% เป็นการบริโภคภายในประเทศ ดังนั้นสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในพม่า และโควิด-19 มีผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมโรงสีข้าวในพม่าอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อชาวนาและผู้บริโภคภายในประเทศด้วยเช่นกัน IFPRI สัมภาษณ์โรงสีกว่า 445 แห่งในอิรวดี พะโค และย่างกุ้ง พบว่ากว่า 66% ของจำนวนโรงสีทั้งหมด หยุดการผลิตเนื่องจากความวิตกในสถานการณ์ทางการเมือง และ 21% หยุดการผลิตเนื่องจากผลกระทบจากโควิด-19 ในขณะที่โรงสีที่ยังดำเนินการผลิตนั้นกว่า 91% เป็นการสีข้าว Emata ซึ่งเป็นข้าวที่นิยมปลูกกันในฤดูนาปรัง โดยแหล่งผลิตใหญ่อยู่ที่อิรวดี 

             จากการสัมภาษณ์พบว่า สถานการณ์โควิด-19 ซึ่งระบาดมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่งผลให้โรงสีได้ชำระเงินล่าช้าจากการขายข้าวสาร และส่งผลการจ่ายเงินซื้อข้าวเปลือกก็ล่าช้าตามไปด้วย ในขณะที่สถานการณ์ความไม่สงบทางการเมือง ทำให้การขนส่งติดขัด ค่าขนส่งแพงขึ้น และการตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตและการสื่อสาร ทำให้การติดต่อสื่อสารกับลูกค้าติดขัด เป็นอุปสรรคด้วย ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ นอกจากนั้นสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองยังกระทบต่อการดำเนินงานของสถาบันการเงิน ซึ่งธุรกิจโรงสีต้องใช้เงินสดในการใช้จ่าย ทำให้โรงสีหลายแห่งประสบปัญหาการขาดสภาพคล่อง 


 

            ผลที่ตามมาทำให้ราคาข้าวปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งข้าว Emata ข้าว Pawsan และปลายข้าว และรำ ซึ่งใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ก็ปรับตัวลดลงด้วย ในขณะที่ชาวนาต้องเผชิญกับต้นทุนปุ๋ยและยาปราบศัตรูพืชที่มีราคาสูงขึ้น IFPRI จึงแนะนำให้ชาวนาลดการใช้ปุ๋ยลง และลดพื้นที่การเพาะปลูกจนกว่าสถานการณ์จะคลึ่คลายมากขึ้น และ IFPRI ยังเสนอให้ฟื้นฟูระบบธนาคารเพื่อให้การดำเนินธุรกิจคล่องตัว และให้ชาวนาเข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น 

Reference 

Myanmar Agriculture Policy Support Activity (MAPSA). 2021. Monitoring the agri-food system in Myanmar: Rice millers – April 2021 survey round. Myanmar SSP Research Note 53. Washington, DC: International Food Policy Research Institute (IFPRI). https://doi.org/10.2499/p15738coll2.134420

             




วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2562

เสน่ห์ข้าวหอมมะลิอุบล

 เสน่ห์ข้าวหอมมะลิอุบล 
       
          จังหวัดอุบลราชธานีเป็นจังหวัดที่เหมาะกับการปลูกข้าวหอมมะลิมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย เพราะผืนดินมีแร่ธาตุที่อุดมสมบูรณ์ซึ่งมีส่วนสำคัญทำให้ข้าวหอมมะลิที่ปลูกในจังหวัดอุบลราชธานีนั้นมีความหอมมากกว่าจังหวัดอื่น ด้วยเหตุนี้ข้าวหอมมะลิอุบลจึงมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะจีนและฮ่องกง จึงไม่แปลกที่ผู้นำเข้าทั้งจากจีนและฮ่องกงจึงแวะเวียนมาจังหวัดอุบลราชธานีในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวเป็นประจำทุกปี เพื่อมาหาวัตถุดิบข้าวคุณภาพชั้นดีเพื่อป้อนตลาดในต่างประเทศ 

           นอกจากแร่ธาตุที่จำเป็นต่อสารสร้างความหอมในเมล็ดข้าวแล้ว ชาวนาก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ข้าวหอมมะลิอุบลมีชื่อเสียงโด่งดัง เพราะการทำนาที่พิถีพิถันและความเอาใจใส่เป็นอย่างดี อย่างพ่อประวิทย์ชาวนาท่านหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานีเล่าให้ฟังว่า การทำนาไม่ใช่แค่ทำไปตามมีตามเกิด ถ้าขาดความรู้ความเข้าใจ ทำนาไปก็ไม่ได้ผล เผลอๆขาดทุนเป็นหนี้เป็นสินอีก ผมจึงขอคำแนะนำจากพ่อประวิทย์ว่าแล้วทำนาอย่างไรจึงจะได้ผล พ่อประวิทย์ก็เมตตาไม่หวงความรู้ เล่าให้ผมฟังด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มและภาคภูมิ การทำนาสำคัญเลยต้องดูฟ้าฝน ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศ จะได้รู้จังหวะ ถ้ารู้ว่าจะมีฝน เราก็หว่านข้าวไว้เลย ประมาณ 10 วันรอให้ฝนตก มีน้ำขังสักหน่อยถึงจะดี เพราะหญ้าโตไม่ได้แต่ข้าวโตได้ถ้าไม่รู้จังหวะไม่รู้ดินฟ้า หว่านไปไม่มีฝน ข้าวก็ตาย หรือไม่หญ้าก็ขึ้นมาด้วย ทำนาก็ไม่ได้ผลอีก ไม่ใช่ง่ายเลยนะ พ่อประวิทย์สำทับ

          
           แล้วปุ๋ยละ? พ่อประวิทย์ใส่ปุ๋ยอะไร ? พ่อประวิทย์เล่าให้ฟังว่า ทำปุ๋ยเอง หมักเอง ใช้แกลบ ละอองข้าว น้ำหมัก ผสมกับยูเรีย หมักไว้ประมาณเดือนนึง และเอามาใส่นาหลังจากหว่านเสร็จ 20 - 35 วัน และใส่ยูเรียอีกทีตอนข้าวตั้งท้อง พ่อประวิทย์ยังบอกอีกว่า ปุ๋ยอินทรีย์ดีกว่าปุ๋ยเคมี มันบำรุงดินดีกว่า ไม่แพงด้วย และที่สำคัญมันปลอดภัย เราอยู่กับข้าว ข้าวเราเอง ปลูกเอง กินเอง ใส่สารเคมีเยอะ ไหนต้องฉีด ไหนต้องพ่น สูดเข้าไป กินเข้าไปอีก อันตรายมาก ที่ชาวนายากจนเป็นหนี้เป็นสินก็เพราะใส่ปุ๋ยเคมีนี่แหละ ไม่ใช่ถูกเลยๆนะ ปุ๋ยกระสอบนึงแพงมากๆ ข้าวต้องราคาเท่าไหร่ถึงจะคุ้มค่าปุ๋ย
 
           พ่อประวิทย์ยังเล่าให้ฟังว่า ชาวนาซื้อปุ๋ยแพงเกินไป บ้างก็เกิดจากความไม่รู้ว่าต้องใช้ปุ๋ยเท่าไหร่ถึงจะพอ บ้างก็เกิดจากเสียงเชียร์ของคนขายปุ๋ย บ้างก็เกิดจากโปรโมชั่น แต่ไม่ว่าจะเกิดจากอะไรก็เป็นต้นทุนของชาวนาทั้งนั้น และยิ่งใส่ปุ๋ยไปนานๆ ดินก็ตาย ก็ต้องซื้อปุ๋ยเยอะขึ้นทุกปีๆ และจะไม่เป็นหนี้เป็นสินได้อย่างไร ทำปุ๋ยเองดีกว่า ประหยัดเงินได้ตั้งเยอะ

            วิถีชาวบ้าน วิถีท้องถิ่น แม้จะจางหายไปบ้างตามยุคสมัย แต่ยังพบเห็นได้ในจังหวัดอุบลราชธานี เป็นเสน่ห์ที่น่าหลงใหล เป็นเสน่ห์ที่น่าติดตรึง ติดตรึงลงไปในเมล็ดข้าว เป็นเสน่ห์ข้าวหอมมะลิอุบล 

       


          

วันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2562

การพัฒนาบุคลากรสู่มาตรฐานสากล

การพัฒนาบุคลากรสู่มาตรฐานสากล

           การทำงานของบุคลากรนั้น มีส่วนสำคัญสำหรับมาตรฐานสากล เพราะถ้าบุคลากรไม่เข้าใจข้อกำหนดก็ไม่สามารถปฏิบัติงานเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลได้ ดังนั้นบุคลากรจึงต้องได้รับการอบรมเพื่อพัฒนาทักษะที่จำเป็นอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนั้นยังมีปัจจัยอีกหลายประการที่บุคลากรจำเป็นต้องได้รับการอบรมและพัฒนา เช่น การพัฒนาด้านเศรษฐกิจหรือเทคโนโลยี ความปลอดภัยในการทำงาน และความปลอดภัยของผู้บริโภค ด้วยเหตุนี้โรงสีข้าวกิจอุดมจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นในคุณภาพของข้าว มีความปลอดภัยและเป็นข้าวคุณภาพ  

      
      สำหรับที่ผ่านมานั้นโรงสีข้าวกิจอุดมได้เชิญวิทยากรจากภายนอก ผู้เชี่ยวชาญด้านแมลงศัตรูพืชเพื่อให้การอบรมพนักงาน ในการจำแนกประเภทแมลงศัตรูพืชและการกำจัดอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค สำหรับแมลงศัตรูพืชนั้นมีหลายชนิด ส่วนใหญ่เป็นศัตรูพืชของธัญพืชและข้าวเปลือก เพราะเป็นสัตว์ที่ชอบอาหารจำพวกแป้ง หากมีแมลงศัตรูพืชปะปนในข้าวเปลือกย่อมสร้างความเสียหาย ทำให้คุณค่าทางอาหารหรือคุณภาพของข้าวลดลง


        แมลงศัตรูพืชบางชนิดเป็นศัตรูพืชกักกันสำหรับบางประเทศ จึงต้องเฝ้าระวัง มีมาตรการตรวจรับวัตถุดิบที่ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล  ในขณะที่แมลงบางชนิดสามารถกินธัญพืชได้มากกว่า 40 ชนิด และสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้โดยปราศจากอาหารได้นานถึง 2 ปี แต่หากมีอาหารนิดหน่อยก็อาจจะอยู่ได้นานถึง 6 ปี จึงต้องมีการกำจัดอย่างเหมาะสม โดยที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม

       ดังนั้นการกำจัดแมลงศัตรูพืชนั้นแบ่งได้หลายวิธีมีทั้งการกำจัดโดยใช้สารเคมี และไม่ใช้สารเคมี การใช้สารเคมีผู้ใช้ต้องผ่านการอบรม มีอุปกรณ์ป้องกัน และมีความรู้ความเข้าใจการใช้สารเคมีเพื่อให้รู้ระยะเวลาที่สารเคมีสลายตัว เพื่อจะได้ไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม สำหรับวิธีการไม่ใช้สารเคมีก็มีวิธีการใช้อุณหภูมิความร้อนเย็น หรือกับดักไฟดักแมลง ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการกำจัดแมลง ดังนั้นโรงสีข้าวกิจอุดมจึงจัดให้มีการอบรมเพื่อพัฒนาบุคลากร เพื่อเพิ่มความรู้ความเข้าใจเรื่องแมลงศัตรูพืช และวิธีการกำจัดแมลงศัตรูพืชอย่างถูกต้อง


         นอกจากการอบรมเรื่องแมลงศัตรูพืชแล้ว การอบรมเรื่องความปลอดภัยในการทำงานก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ดังนั้นโรงสีข้าวกิจอุดมจึงเชิญวิทยากรจากสถานีดับเพลิง เพื่อให้การอบรมพนักงานในการป้องกันอัคคีภัย รวมทั้งการซ้อมการอพยพ เพื่อทำความเข้าใจในการใช้อุปกรณ์ดับเพลิงและการปฏิบัติตนอย่างถูกต้องหากเกิดอัคคีภัย เพื่อลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน

 

          การบรรลุข้อกำหนดมาตรฐานสากลนั้น สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญก็คือการพัฒนาบุคลากร เพราะเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานโดยตรง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ไม่เพียงเท่านั้นการอบรมยังเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของพนักงาน เพิ่มความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทำให้พนักงานเป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน ไม่ใช่เป็นผู้รับคำสั่ง ดังเช่นที่ ไมเคิล จอร์แดน กล่าวไว้ว่า Talent wins games, but teamwork and intelligence win championships ความสามารถทำให้ได้ชัยชนะ แต่ทีมและสติปัญญาทำให้เป็นที่หนึ่ง

       

         

วันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ประโยชน์ของข้าวไรซ์เบอร์รี่


ประโยชน์ของข้าวไรซ์เบอร์รี่ 
        ใครๆต่างพูดกันว่า ข้าวไรซ์เบอร์รี่ (RiceBerry หรือ Thai Black Rice) มีประโยชน์มาก เพราะอุดมไปด้วยวิตามิน E เบต้า-แคโรทีน (Beta-carotene) โฟเลต (Folate) และที่สำคัญคือมีสารฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีส่วนช่วยป้องกันโรคมะเร็ง เพราะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ก่อนอื่นเราคงต้องทำความรู้จักกับโรคมะเร็งและอนุมูลอิสระเสียก่อน อนุมูลอิสระหรือ Free radicals เป็นโมเลกุลหรืออะตอม ที่สูญเสียอิเลคตรอนไปทำให้ไม่เสถียร ดังนั้นอนุมูลอิสระจึงต้องไปแย่งจับเอาอิเลคตรอนจากเซลล์หรืออะตอมอื่นๆเพื่อสร้างความเสถียรให้กับตัวเอง 

         ดังนั้นอนุมูลอิสระก็เปรียบเสมือนกับผู้ร้ายในร่างกายของเรา ซึ่งธรรมชาติของผู้ร้ายไม่สามารถดำรงอยู่ด้วยตัวเองได้ ต้องสร้างความเสียหาย ต้องแย่งชิง ต้องขโมย ทำให้พลเมืองดีๆพลอยได้รับความเดือดร้อนไปด้วย แล้วผู้ร้ายเกิดขึ้นในร่างกายของเราได้อย่างไร ?

         ตามปกติแล้วด้วยกระบวนการตามธรรมชาติของร่างกายคนเรา ก็มักจะเกิดของเสียเป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งของเสียต่างๆเหล่านี้ก็กลายเป็นผู้ร้ายทำร้ายตัวเราด้วย หรือบางทีเราอาจจะรับผู้ร้ายจากภายนอกเข้ามาในร่างกายเรา จากมลภาวะ อาหารพวกปิ้งย่าง การสูบบุหรี่ หรือรังสี UV เป็นต้น ซึ่งผู้ร้ายเหล่านี้ก็จะออกปล้นทรัพย์สินมีค่าจากพลเมืองดีของเรา นั่นก็คือการแย่งจับเอาอิเลคตรอนจากเซลล์ต่างๆภายในร่างกายของเรา ทั้งจาก DNA โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และเซลล์เนื้อเยื่ออื่นๆ ซึ่งทำให้เซลล์ต่างๆเหล่านี้เกิดความเสียหาย และกลายเป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด แก่ก่อนวัย และอื่นๆอีกมาก

        แต่ที่ผ่านมา ที่เราไม่เจ็บไม่ป่วยก็เพราะร่างกายของเรายังคงมีตำรวจ ที่คอยตั้งด่านตรวจจับทำลายผู้ร้าย ซึ่งตำรวจเหล่านี้เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Antioxidants หรือสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะคอยจับเอาผู้ร้ายและลำเลียงออกไปทิ้ง เช่นเดียวกับผู้ร้ายร่างกายเราสามารถสร้างตำรวจได้เอง แต่เมื่ออายุมากขึ้น การสร้างตำรวจก็อาจจะน้อยลง ในขณะที่ผู้ร้ายมีจำนวนเท่าเดิมหรืออาจจะมากขึ้นด้วยซ้ำ จนตำรวจมีไม่เพียงพอในการจับผู้ร้าย อนุมูลอิสระก็จะเพิ่มจำนวนขึ้นและสร้างความเสียหายจนก่อให้เกิดโรคกับเราได้

        "การรับประทานข้าวไรซ์เบอร์รี่ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเพิ่มปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระ" หรือเพิ่มจำนวนตำรวจในร่างกายเราได้ เนื่องจากในข้าวไรซ์เบอร์รี่มีสารชนิดหนึ่งเรียกว่าฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ต้านการอักเสบ และลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งนอกจากนั้นยังช่วยลดความเสี่ยงในการแก่ก่อนวัยอีกด้วย

          ไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งเท่านั้น สารฟลาโวนอยด์ในข้าวไรซ์เบอร์รี่ ยังช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะหลอดเลือดแข็งตัว (Atherosclerosis) ซึ่งเกิดจากการที่ผนังหลอดเลือดชั้นในหนาตัวมากขึ้น จนมีไขมันไปเกาะสะสม จนทำให้เส้นเลือดเกิดการตีบตัน ส่งผลให้อวัยวะภายในร่างกายขาดเลือดได้ ซึ่งสารฟลาโวนอยด์จะช่วยเสริมความแข็งแรงและความสมบูรณ์ของหลอดเลือด  ทำให้ลดความเสี่ยงจากโรคหลอดเลือดได้

          แต่ข้าวไรซ์เบอร์รี่ก็ไม่ใช่ยาวิเศษ ครอบจักรวาล ร่างกายคนเรายังต้องการสารอาหารอีกมาก การรับประทานอาหารที่หลากหลายและครบ 5 หมู่ จึงจะดีที่สุด
Further Reading 
1. Suttiarporn, P., Sookwong, P., and Mahatheeranont, S. (2016). Fractionation and Identification of Antioxidant Compounds from Bran of Thai Black Rice cv. Riceberry. Retrieved from http://www.ijcea.org/vol7/552-Q0030.pdf 

2. National Cancer Insitute. Antioxidants and Cancer Prevention. Retrieved from  https://www.cancer.gov/about-cancer/causes-prevention/risk/diet/antioxidants-fact-sheet

    3. George Mateljan. Flavonoids. Retrieved from http://www.whfoods.com/genpage.php?tname=nutrient&dbid=119 


วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ไรซ์เบอร์รี่ตระการพืชผล

ไรซ์เบอร์รี่ตระการพืชผล 
        "ข้าวตระการ มีดีอย่างไร" ผมได้ยินเจ้าหน้าที่จากกรมการข้าว สัมภาษณ์ชาวบ้านเมื่อครั้งที่ท่านรองอธิบดี ท่านดร.กฤษณพงศ์ ศรีพงศ์พันธุ์กุล ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมแปลงนาที่อำเภอตระการพืชผล คำถามง่ายๆแต่ลุ่มลึกยิ่ง ยากจะหาคำตอบยิ่ง 
  
          จนกระทั่งเช้าวันหนึ่ง พ่อขาวมาขายข้าวที่โรงสีกิจอุดม ด้วยความเป็นผู้นำชุมชน ด้วยความที่ขายข้าวคุณภาพ และด้วยความเป็นลูกค้าประจำ ผมจึงลองถามพ่อขาว "ข้าวตระการ มีดีอย่างไร" พ่อขาวหัวเราะร่วน ก่อนจะตอบอย่างเชื่อมั่นว่า "ข้าวมันจะดีได้ มันต้องมี ดิน น้ำ ลม ไฟ" ผมยังคงยืนฟัง พ่อขาวจึงเล่าต่ออย่างออกรสออกชาติ


           "ดิน"ตระการของเรา มันเป็นดินร่วนปนทราย เหมาะกับการเติบโตของข้าวอยู่แล้ว 

           "น้ำ" นี่สำคัญเลย ถ้าฝนทิ้งช่วงก็ทำให้ข้าวตาย ถ้าฝนมากไปข้าวก็ไม่ออกรวง น้ำจึงต้องถูกจริตกับข้าวด้วย 

           "ลม"ช่วงฤดูเก็บเกี่ยว ต้องมีลมเมล็ดข้าวถึงจะแข็ง ไม่แตกหักง่าย 

           "ไฟ"หรือก็คืออุณหภูมิ ตอนข้าวกำลังตั้งท้อง ต้องอาศัยแดด ต้องอาศัยความร้อน แต่ตอนเก็บเกี่ยวอากาศต้องเย็น ถ้าอากาศร้อน ข้าวก็แตกหักเสียหายได้ 

           ผมยังคงยืนฟัง และพยักหน้าตาม ฟังที่พ่อขาวเล่า "แต่ที่สำคัญที่สุด....ก็คือ "คน" นี่แหละที่ต้องเอาใจใส่ข้าว"  พ่อขาวพูดจาหนักแน่นเพราะกลัวผมจะไม่เชื่อ 
           "อย่างผมเนี่ย ข้าวต้องเหลืองกล้วยพอดีเกี่ยว ผมจึงจะเกี่ยว ข้าวแกมข้าวกลายพันธุ์ผมถอนทิ้งหมด ไม่มีเหลือ ดอกหญ้าฟางข้าวของผมนี่ไม่มี ผมกวาดออกหมด ทำอย่างดีเลยแหละ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ของผมก็เหมือนกัน สารเคมีผมไม่ให้เข้ามาใกล้เลย"
           ผมสะดุดใจกับข้าวไรซ์เบอร์รี่ ผมไม่รู้มาก่อนว่าพ่อขาวปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ด้วย เพราะที่ผ่านมาพ่อขาวขายเฉพาะข้าวหอมมะลิให้กับผมเท่านั้น น่าสนใจยิ่งเพราะเป็นไรซ์เบอร์รี่ น่าสนใจยิ่งเพราะเป็นพ่อขาว

      ความร่วมมือจึงเกิดขึ้น หรือจะเรียกว่าเราพัฒนาแบรนด์สินค้า พัฒนาตลาดร่วมกัน ก็ไม่ผิดนัก จึงกลายเป็น "แบรนด์ข้าวบ้านเรา" โดย K.D. Rice จึงกลายเป็น "ความร่วมมือ" โดยชาวนาคุณภาพที่ชื่อพ่อขาวคนนี้