Premium Grade Hom Mali Rice

วันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2564

สถานการณ์ข้าวในพม่า


 สถานการณ์ข้าวในพม่า

            อุตสาหกรรมโรงสีข้าวเป็นผู้เล่นที่สำคัญในห่วงโซ่อุปทานข้าวในพม่า เนื่องจากเป็นทั้งผู้ซื้อข้าวเปลือกจากชาวนา และเป็นผู้แปรรูป ซึ่งปริมาณข้าวในพม่ากว่า 50% เป็นการบริโภคภายในประเทศ ดังนั้นสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในพม่า และโควิด-19 มีผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมโรงสีข้าวในพม่าอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อชาวนาและผู้บริโภคภายในประเทศด้วยเช่นกัน IFPRI สัมภาษณ์โรงสีกว่า 445 แห่งในอิรวดี พะโค และย่างกุ้ง พบว่ากว่า 66% ของจำนวนโรงสีทั้งหมด หยุดการผลิตเนื่องจากความวิตกในสถานการณ์ทางการเมือง และ 21% หยุดการผลิตเนื่องจากผลกระทบจากโควิด-19 ในขณะที่โรงสีที่ยังดำเนินการผลิตนั้นกว่า 91% เป็นการสีข้าว Emata ซึ่งเป็นข้าวที่นิยมปลูกกันในฤดูนาปรัง โดยแหล่งผลิตใหญ่อยู่ที่อิรวดี 

             จากการสัมภาษณ์พบว่า สถานการณ์โควิด-19 ซึ่งระบาดมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่งผลให้โรงสีได้ชำระเงินล่าช้าจากการขายข้าวสาร และส่งผลการจ่ายเงินซื้อข้าวเปลือกก็ล่าช้าตามไปด้วย ในขณะที่สถานการณ์ความไม่สงบทางการเมือง ทำให้การขนส่งติดขัด ค่าขนส่งแพงขึ้น และการตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตและการสื่อสาร ทำให้การติดต่อสื่อสารกับลูกค้าติดขัด เป็นอุปสรรคด้วย ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ นอกจากนั้นสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองยังกระทบต่อการดำเนินงานของสถาบันการเงิน ซึ่งธุรกิจโรงสีต้องใช้เงินสดในการใช้จ่าย ทำให้โรงสีหลายแห่งประสบปัญหาการขาดสภาพคล่อง 


 

            ผลที่ตามมาทำให้ราคาข้าวปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งข้าว Emata ข้าว Pawsan และปลายข้าว และรำ ซึ่งใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ก็ปรับตัวลดลงด้วย ในขณะที่ชาวนาต้องเผชิญกับต้นทุนปุ๋ยและยาปราบศัตรูพืชที่มีราคาสูงขึ้น IFPRI จึงแนะนำให้ชาวนาลดการใช้ปุ๋ยลง และลดพื้นที่การเพาะปลูกจนกว่าสถานการณ์จะคลึ่คลายมากขึ้น และ IFPRI ยังเสนอให้ฟื้นฟูระบบธนาคารเพื่อให้การดำเนินธุรกิจคล่องตัว และให้ชาวนาเข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น 

Reference 

Myanmar Agriculture Policy Support Activity (MAPSA). 2021. Monitoring the agri-food system in Myanmar: Rice millers – April 2021 survey round. Myanmar SSP Research Note 53. Washington, DC: International Food Policy Research Institute (IFPRI). https://doi.org/10.2499/p15738coll2.134420